วิบากกรรมเป็นเรื่องใหญ่ของชีวิต ถ้าคนเราไม่เข้าใจระบบของวิบากกรรม ที่ให้ผลต่อชีวิตของเรา จะทำให้คนเราไม่สามารถเอาตัวรอดไปจากวิบากกรรมได้ จะต้องเวียนว่ายตายเกิดหาที่สิ้นสุดไม่ได้ ไม่สามารถพาตนเองหลุดจากวิบากกรรมไปถึงมรรคผลนิพพานได้ การศึกษาเรียนรู้การดำเนินชีวิตทุกขณะจิตผ่านตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ อย่างถูกต้อง ตามทันสิ่งที่มากระทบสัมผัสทางตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ หยุดการปรุงแต่งด้วยความพอใจ ไม่พอใจ โดยใช้กฎธรรมชาติ ๒ กฎที่พระพุทธเจ้าตรัสรู้ กำกับการกระทบสัมผัส ว่าไม่เที่ยง-เกิดดับ เหตุปัจจัยที่จะมาปรุงแต่งหมดแล้ว จบแล้ว คนเราก็จะมองเห็นว่า ธรรมชาตินั้นบริสุทธิ์ ละเอียด ประณีต ระงับสังขาร (การปรุงแต่ง) สละคืนอุปธิ หรือความพอใจ ไม่พอใจหมดแล้ว ธรรมชาติระงับราคะ โทสะ โมหะ ดับไม่เหลือ ไม่มีตัวตนและของของตน ความอิ่มอกอิ่มใจปิติเกิดขึ้น แล้วเกิดปัสสัทธิ โปร่งโล่ง จิตใจก็ตั้งมั่นในความโปร่งโล่ง ในที่สุดก็เกิดอุเบกขา มีแต่สุขที่ไร้ทุกข์เกิดขึ้นในใจ ในที่สุดก็ข้ามพ้นวิบากกรรมไปได้ ไม่ต้องเวียนว่ายตายเกิดต่อไป