มนุษย์ก็เป็นธรรมชาติชนิดหนึ่ง

มนุษย์เป็นธรรมชาติชนิดหนึ่ง ในโลกนี้มีธรรมชาติชนิดหนึ่ง ไม่เหมือนธรรมชาติส่วนอื่น ๆ คือตัวมนุษย์ ในตัวมนุษย์มีธรรมชาติ ๒ อย่างอยู่ในตัว คือ มีกายกับใจ หรือรูปกับนาม โลกภายนอกจะเห็นว่ามีแต่รูปธรรมเท่านั้น ส่วนมากเกิดจากอุตุทำให้เกิด แต่ตัวมนุษย์นั้นเกิดจากกรรมและวิญญาณ จะเห็นว่าร่างกายมนุษย์เป็นรูปธรรม มีดิน น้ำ ลม ไฟมาประชุมกัน เป็นธาตุไม่รู้อะไร ส่วนนามธรรมหรือใจ ก็เกิดขึ้น ตั้งอยู่ ดับไป มีเวทนา (รับ) สัญญา (จำ) สังขาร (คิด) วิญญาณ (รู้) เป็นองค์ประกอบ ร่างกายของมนุษย์มีตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ เป็นทวารคอยรับรู้การกระทบสัมผัสจากโลกภายนอก แล้วเอามาปรุงแต่ง จากนั้นก็เอาไปจำไว้ แล้วเอาความจำหรือข้อมูลที่รับมา เอาไปคิดปรุงแต่ง เสร็จแล้วก็เอาสิ่งที่คิดไปเป็นความรู้ แล้วเอาความรู้นั้นไปเลี้ยงร่างกายทุกส่วน เรียกว่า วิญญาณหาร ไปสู่การกระทำทั้งทางใจ มโนกรรม ทางวาจา วจีกรรม ไปสู่กายกรรม การกระทำทางกาย แล้วก็เก็บเอามโนกรรม วจีกรรม กายกรรม เป็นข้อมูลจำไว้ในใจ แล้วเอาไปปรุงแต่งต่อไปหาที่สิ้นสุดไม่ได้ นอกจากตายไปในชาตินี้ ทำให้เกิดวิบากกรรมแก่มนุษย์ทุกคน ทำให้มนุษย์เวียนว่ายตายเกิดนับภพนับชาติไม่ถ้วน

มนุษย์เป็นธรรมชาติที่มีทั้งกายและใจ หรือรูปธรรม นามธรรมอยู่ร่วมกัน และทำงานร่วมกันตลอดเวลา ทำให้เกิดวิบากกรรมที่เป็นบุญ เป็นบาป หรือสุข ทุกข์ คนเราเกิดมาจึงต้องการหนีทุกข์ไปหาสุขถาวร แต่ไปถึงได้แค่สุขชั่วคราวเท่านั้น จึงไม่เป็นที่พอใจของคนเรา คนเราต้องการสุขถาวร ชีวิตจึงได้พาตัวเราไปเสาะแสวงหาสุขถาวรตลอดเวลา

ทุกข์ของคนเรา

ทำไมคนเราจึงต้องสร้างทุกข์ให้กับตัวเอง

สุขที่คนเราจะไปถึง

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้
เปรียบเทียบสินค้า
0/4
ลบทั้งหมด
เปรียบเทียบ
Powered By MakeWebEasy Logo MakeWebEasy